การแปลเอกสาร เพื่อขอนำรถออกนอกราชอาณาจักร
หากท่านจำเป็นต้องเดินทางออกจากประเทศไทยหรือออกนอกราชอาณาจักร โดยการขับรถเอง ท่านจำเป็นต้องมีเอกสารเพื่อขอนำรถออกนอกราชอาณาจักร ดังนั้นการแปลเอกสารเพื่อขอนำรถออกนอกราชอาณาจักร จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ท่านต้องดำเนินการ และต้องใช้เอกสารประกอบอื่นๆ อีกหลายรายการ อาทิ คู่มือทะเบียนรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นตัวจริงหรือสำเนาที่กรมขนส่งทางบกรับรอง หนังสือเดินทาง หรือ passport หรือหนังสือผ่านแดน (Border Pass) ซึ่งผ่านการประทับตรารับรองการตรวจคนออกนอกเมืองแล้ว
กรณีคนนำรถออกนอกราชอาณาจักร ไม่ใช่เจ้าของรถ ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถด้วย จะเห็นได้ว่าการน้ำรถออกนอกราชอาณาจักรจะต้องใช้เอกสารค่อนข้างรัดกุม เพื่อเป็นการคัดกรองกรณีรถยนต์นั้นถูกลักขโมยมาแล้วต้องการนำออกนอกราชอาณาจักรเพื่อนำไปจำหน่ายต่อยังประเทศอื่นๆ ส่วนมากแล้วน้อยคนที่จะนิยมขับรถออกนอกราชอาณาจักรเองเนื่องด้วยขั้นตอนที่ค่อนข้างจุกจิกและมากเอกสาร แต่หากเลี่ยงไม่ได้และจำเป็นต้องนำรถออกนอกราชอาณาจักรจริงๆ ท่านจึงต้องหาข้อมูลว่าต้องใช้เอกสารใดบ้างในการนำรถออกนอกราชอาณาจักรนี้ หากท่านต้องนำรถออกจริงๆ ท่านต้องผ่านพิธีการอย่างน้อย 3 ขั้นตอนดังนี้
1. ผู้นํารถออกต้องนําหลักฐานมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ จุดตรวจด่านพรมแดน และต้องแจกแจงว่ามีสิ่งของอื่นหรือผู้โดยสารและสิ่งของติดตัวผู้โดยสารเข้ามาพร้อมกับรถเป็นอะไรบ้าง ผู้นํารถออกต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรอย่างละเอียด
2. เจ้าหน้าที่ศุลกากรนั้นจะทําการบันทึกข้อมูลและจัดทําใบขนสินค้าพิเศษแล้วให้ผู้นํารถออกลงลายมือชื่อรับรองในใบขนสินค้านั้นๆ
3. ผู้นํารถออกจะต้องนํารถพร้อมใบขนสินค้าพิเศษ (ทั้งต้นฉบับและตัวสำเนา) ให้เจ้าหน้าศุลกากร ณ ด่านพรมแดนทำการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วลงลายมือชื่อในใบขนสินค้าพิเศษ จากนั้นจะมอบสำเนาใบขนสินค้าพิเศษให้ผู้นํารถออก 1 ฉบับ เพื่อใช้เป็นหลักฐานการนํารถออกไปนอกราชอาณาจักรไทย และใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร เมื่อนํารถกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีกครั้ง
จะเห็นได้ว่า ไม่ง่ายเลยการจะนำรถออก ดังนั้นท่านคงหนีไม่พ้นขั้นตอนของการแปลเอกสาร เพื่อขอนำรถออกนอกราชอาณาจักร
ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารเป็นยุคที่เรียกได้ว่าเร็วยิ่งกว่าจรวด เนื่องด้วยเทคโนโลยีของการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ดังนั้นการสื่อสารระหว่างบุคคล หรือระหว่างองค์กร หรือระหว่างบุคคลกับองค์กร ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ลำบากอีกต่อไป เมื่อการสื่อสารกว้างไกลขึ้น ก็จะชักนำมาถึงเรื่องของการเดินทางระหว่างเขตแดนซึ่งง่ายดายขึ้นเช่นกัน จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันมีสายการบินต่างๆ มากมายที่เพิ่มเส้นทางการบินทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศทั่วโลก อีกทั้งราคาก็ไม่ได้แพงเหมือนดังเช่นในอดีต บางครั้ง ราคาตั๋วเครื่องบินนั้นถูกกว่าการนั่งรถโดยสาร (รถทัวร์) หรือรถไฟเสียอีก ดังนั้นการเดินทางไปมาหาสู่ การท่องเที่ยว จึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก หากท่านตรวจสอบจำนวนผู้โดยสารไทยที่ออกนอกประเทศ
ท่านจะพบว่า มีปริมาณเพิ่มขึ้นมากหลายเท่าตัว หากเทียบกับในอดีตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว นี่ก็เป็นเพราะความสะดวกสบายและการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงของการเดินทางในปัจจุบัน ทำให้ราคาการเดินทางลดลงมามาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมรับว่ายังคงมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยังคงนิยมการเดินทางโดยรถยนต์โดยสารส่วนตัว โดยเฉพาะบุคคลผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายแดนและต้องติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว พม่า มาเลเซีย เวียดนาม เป็นต้น เมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์โดยสารส่วนตัว
ก็ต้องอาศัยเอกสารการเป็นเจ้าของรถยนต์และต้องมีการขออนุญาต นำรถออกและเข้าตามลำดับ เพื่อหลีกเลี่ยงมิจฉาชีพซึ่งมีให้พบเห็นได้มากมายหลายต่อหลายครั้งตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ การแปลเอกสาร เพื่อขอนำรถออกนอกราชอาณาจักรจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการนำรถออกนอกราชอาณาจักร ศูนย์การแปลภาษาจึงเป็นตัวช่วยของท่านในการการแปลเอกสาร เพื่อขอนำรถออกนอกราชอาณาจักร หากท่านมีเอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ทราบกฎระเบียบของการนำรถออกนอกประเทศ ท่านก็จะเสียเวลาและอาจจะทำให้การเดินทางล่าช้า อาจจะทำให้ธุรกิจหรือแผนการเดินทางเสียหายได้อีกด้วย ดังนั้นศูนย์การแปลเอกสารจึงเป็นตัวช่วยสำคัญในปัจจุบันในแทบจะทุกๆ เรื่องเลยทีเดียว ด้วยเพราะเป็นที่ต้องการมากในปัจจุบันดังนั้นราคาของค่าบริการก็ไม่ได้สูงมากอย่างที่คิด อีกทั้งมีศูนย์การแปลภาษาหลายต่อหลายแห่งมีความน่าเชื่อถือและสามารถเป็นผู้ช่วยของท่านได้อย่างแท้จริง