การแปลเอกสาร เพื่อขอใบทำงาน (work permit) ทำงานในต่างประเทศ

 

ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า คนไทยหลายหลายอาชีพ หลากหลายอายุและหลากหลายภูมิภาค นิยมที่จะหาความรู้และประสบการณ์ในการไปทำงานยังต่างประเทศ เริ่มแรกเราจะเห็นว่ามีแต่คนไทยที่จบระดับการศึกษาปริญญาตรี แล้วจะไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่ต่างประเทศ ซึ่งบุคคลเหล่านี้แต่ก่อนก็มักจะเป็นบุคคลที่ผ่านการทำงาน มีประสบการณ์การทำงานกับบริษัทในประเทศหรือเป็นข้าราชการไทย มาแล้วสักระยะหนึ่ง

 

หลังจากนั้นก็อยากจะหาประสบการณ์ต่อยอดความรู้ความสามารถด้วยการทำเรื่องขอไปศึกษาต่อปริญญาโท ยังต่างประเทศหรือไม่ก็สอบชิงทุนการศึกษา หรือสมัครไปเรียนต่อโดยตรงกับสถานศึกษาที่อยู่ต่างประเทศเองเลย ซึ่งบางสถาบันก็มีทุนจัดสรรให้เรียนฟรีทั้งหมด หรือเสียเงินและค่าใช้จ่ายแค่บางส่วน บางสถาบันก็คิดค่าเทอมในราคาย่อมเยา เพื่อจะได้มีนักเรียนจากไทย เข้าไปศึกษามากขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของสถาบันนั้นๆ เลยทีเดียว

 

การจะไปศึกษาต่อยังต่างประเทศนั้น หากผู้ที่จะไปศึกษาต่อมีฐานะทางการเงินค่อนข้างดี ก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลายๆ คนที่ตัดสินใจไปศึกษาต่อนั้นไม่ได้มีงบประมาณของตัวเองมากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศโดยไม่ต้องทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศที่มีค่าครองชีพที่สูง อีกทั้งจุดมุ่งหมายจริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้หมายถึงการเรียนต่อ แต่จุดหมายหลักๆ คือการได้ทำงานในต่างประเทศซึ่งเราจะได้รับค่าจ้างในอัตราที่สูงกว่าการทำงานในประเทศไทย ดังนั้นผู้ที่จะไปเรียนต่อยังต่างประเทศจึงต้องหาทางออกด้วยการเรียนและทำงานควบคู่ไปด้วยการ

 

ซึ่งหากเป็นไปได้ก็คงอยากจะทำงานเพียงอย่างเดียว ซึ่งขั้นตอนก็หนีไม่พ้นที่จะต้องขอใบทำงาน ดังนั้นการแปลเอกสาร เพื่อขอใบทำงาน (work permit) ทำงานในต่างประเทศ จึงกลายเป็นเอกสารจำเป็นโดยปริยาย ซึ่งศูนย์การแปลเอกสารส่วนใหญ่ล้วนรู้และเข้าใจว่าจะต้องมีขั้นตอนในการขอและแปลเอกสาร เพื่อขอใบทำงาน (work permit) ทำงานในต่างประเทศอย่างไรบ้าง ซึ่งก่อนที่จะขอใบทำงานได้ ผู้ที่คิดจะไปอยู่และทำงานยังต่างประเทศนั้น ต้องมีการเตรียมพร้อมเพราะค่าธรรมเนียมของการขอใบทำงาน มีราคาค่อนข้างแพงเลยทีเดียว

 

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกเราเปิดเสรีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการค้าขาย การเล่าเรียนศึกษา และการค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ของชีวิต ทำให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ทุกชนชั้น มีการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตไปต่างๆ นานา การทำงานข้ามแดนก็เป็นอีกความนิยมที่เกิดกับหลายๆ ประเทศทั่วโลก อาทิ อินเดีย ฟิลิปปินส์ ไทย จีน

 

ดังนั้นเราจะเห็นว่าหลายๆ ประเทศก็จะมีกลุ่มคนจากต่างประเทศเข้ามาทำงานมากมาย บางทีกลายเป็นชุมชนของชาวจีน ชุมชนชาวไทย ฯลฯ ไปเลยด้วยซ้ำ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีคนจากหลากหลายประเทศเข้ามาปักหลักและประกอบอาชีพอยู่ เช่น เกาหลี จีน ไทย เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งคนเหล่านี้ก่อนจะเดินทางมายังประเทศออสเตรเลีย ก็ต้องทำเรื่องขอเข้ามาเพื่อลี้ภัย ศึกษาต่อหรือทำงาน ก็แล้วแต่กฏระเบียบของแต่ละประเทศนั้นๆ อีกประเทศหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากไทยมากก็เช่น สิงคโปร์ คนไทยนิยมไปทำงานที่สิงคโปร์มากขึ้น เพราะสิงคโปร์กำลังขยายเมือง มีการก่อสร้างตึกใหม่ๆ และขยายเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินมากมาย ดังนั้นความต้องการแรงงานจากคนงานต่างประเทศจึงมีมากขึ้นด้วย

 

ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่คนอินเดีย ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เมื่อคนไทยจำนวนที่มากขึ้น สนใจจะเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ หลายๆ คนยังไม่มีความรู้ด้านภาษาด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาเหล่านั้นจำเป็นต้องให้ศูนย์แปลภาษาช่วยเหลือในเรื่องของการแปลเอกสาร เพื่อขอใบทำงาน (work permit) ทำงานในต่างประเทศ ซึ่งทั้งนี้ไม่ใช่จำกัดเฉพาะประเทศในกลุ่มที่พัฒนาแล้วอย่างออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษหรือสิงคโปร์ แต่รวมทั้งประเทศในแถบตะวันออกกลางซึ่งต้องการชนชั้นแรงงานจากประเทศไทยเข้าไปช่วยทำงาน เหตุเพราะค่าแรงของคนไทยนั้นถือว่าถูกและมีคุณภาพ หากเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่จุดอ่อนของเราก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของภาษา ซึ่งส่วนมากก็ต้องใช้การแปลเอกสาร เพื่อขอใบทำงาน (work permit) เพื่อทำงานในต่างประเทศ ของสถาบันแปลภาษาเข้ามาช่วย

 

เนื่องจากการขอใบทำงานนั้น มีความละเอียดอ่อน และต้องใช้เอกสารและหลักฐานหลายตัวแล้วต้องนำมาแปลทั้งหมด ดังนั้นศูนย์แปลภาษาแต่ละที่จึงเปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยของผู้ที่จะเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศเลยทีเดียว

 

Comments are closed.