ประเทศไทย:ดินแดนยอดนิยมของต่างชาติวัยเกษียณ

ประเทศไทย: แดนสวรรค์ของชาวต่างชาติหลังวัยเกษียณ
ประเทศไทย ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสยามเมืองยิ้ม ผู้คนยิ้มแย้ม แจ่มใส เต็มไปด้วยรอยยิ้มแจกจ่ายให้กับผู้พบเห็น จนเป็นที่มาของประโยคฮอตฮิตของประเทศไทยมาเนิ่นนานและดังระเบิดระบือไปทั่วโลก นั่นคือ ฉายา ดินแดนสยามเมืองยิ้ม รวมไปถึงดินแดนสวรรค์ของใครหลายคนที่เดินทางมาท่องเที่ยว มาพักผ่อน หาความสำราญ สบายใจ พักเหนื่อย พักใจ พักกายจากความเหนื่อยล้า และหลายคนติดใจ ชื่นชอบในดินแดนแห่งนี้ จนขอเป็นที่พักสุดท้ายในชีวิต
ในลักษณะดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นกับชายต่างชาติวัยเกษียณหลายท่านที่หลงใหลเสน่ห์ของประเทศไทย ที่ผู้คนให้ความเป็นกันเอง อยู่กันแบบฉันท์มิตร เอื้ออาทร ห่วงใยซึ่งกันและกัน ทักทาย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน ก่อให้เกิดความอบอุ่น และความสบาย ความเอื้ออารีนี้เอง ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่หลงใหลของคนวัยเกษียณหลายประเทศต่างพากันย้ายถิ่นฐานมาเป็นเรือนพักสุดท้าย และไม่ขอกลับไปประเทศบ้านเกิดของตนอีกเลย

 

และมีใครเคยสงสัยไม๊ว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ประเทศไทยน่าอยู่สำหรับชาวต่างชาติอย่างไร ทำไมใครๆ ถึงอยากมาอยู่ ทำไมใครๆ ถึงรักประเทศไทย แต่สำหรับผู้เขียน ประเทศไทยอยู่ง่าย อาหารการกินมีมากมาย หลายรสชาติ หลายแบบอากาศไม่หนาวเย็นๆ หรือร้อนจัดเกินไป แม้จะมีเสียงบ่นเล็กๆ เกี่ยวกับอากาศบ้าง เช่น ประเทศไทยมีแต่อากาศร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุด แต่นับว่าโชคดีกว่าหลายประเทศที่ไม่ต้องเผชิญสภาพภูมิอากาศอันเลวร้าย เวลาหนาวก็หนาวจับขั้วหัวใจ หนาวไปถึงกระดูก ทนหนาวไม่ได้ ออกไปข้างนอกบ้านไม่ได้ หิมะตกหรือแม้กระทั่งพายุหิมะเข้า หรือเปิดเครื่องทำความอบอุ่นตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน ถึงฤดูร้อน เวลาร้อนก็ร้อนจนแดดเผา หรือแทบละลาย อุณหภูมิสูงจนปรอทแทบแตก ประเทศไทยไม่เคยร้อนจนทนไม่ได้ ไม่เคยหนาวจนเป็นน้ำแข็ง ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดี ใบหน้าต้อนรับผู้คน แม้กระทั่งคนแปลกหน้าก็ยิ้มต้อนรับ และให้ความเป็นกันเองง่าย ชอบช่วยเหลือ คนไทยใจดี เอาใจใส่ เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน และที่สำคัญคือ ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งศาสนาพุทธ พุทธศาสนาสอนให้เราไม่ยึดติด และรู้จักการให้อภัย จึงให้อภัยและลืมง่าย เพราะด้วยเหตุนี้ชาวต่างชาติจึงรู้สึกอบอุ่น ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เมื่อมาอยู่แล้วไม่รู้สึกเหงาหรือรู้สึกถูกทอดทิ้ง ใครหลายคนเห็นด้วยกับผู้เขียนหรือไม่

Comments are closed.