3 ข้อควรรู้ก่อนไปยื่นรับรองเอกสารที่กงสุล
3 ข้อควรรู้ก่อนไปยื่นรับรองเอกสารที่กรมการกงสุลด้วยตนเอง เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญ เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้เอกสารเอง เพราะหากไม่เตรียมข้อมูล หรือไม่เตรียมพร้อม จะเสียเวลาและใช้เวลาในการดำเนินการแต่ละขั้นตอนมากกว่าปกติ เพราะเอกสารแต่ละประเภทความเหมือนหรือแตกต่างกันไม่มากก็น้อยในการยื่นขอรับรองที่กรมการกงสุล 3 ขั้นตอนที่ควรรู้ก่อนไปยื่นรับรองเอกสารที่กรมการกงสุล เช่น
ขั้นตอนที่หนึ่ง เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นรับรองมีอะไรบ้าง หรือต้องใช้เอกสารอะไรประกอบการขอยื่นรับรองเอกสารที่กรมการกงสุลด้วยตนเองบ้าง หรือบลาๆๆๆ ทั้งนี้ขอกล่าวถึง การขอยื่นรับรองเอกสารราชการ เช่น ใบรับรองความเป็นโสด ใบรับรองรายการทะเบียนราษฎร์ หนังสือรับรองการทำงาน และอีกหลายประเภทที่ทางราชการออกให้ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง เอกสารเหล่านี้ไม่ควรเคลือบพลาสติก หากเจ้าหน้าที่พบว่ามีการเคลือบมา จะคืนให้กับเจ้าของเอกสาร เพื่อติดต่อขอเอกสารชุดใหม่กับทางราชการและนำมาขอรับรองใหม่ เพราะเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ทางกรมการกงสุลจะประทับรับรองบนต้นฉบับคู่กับฉบับแปล แม้กระทั่งใบกรด ก็ไม่อนุญาตให้เคลือบเพราะเจ้าหน้าที่กรมการกงสุลจะรับรองบนตัวจริงคู่กับฉบับแปลเช่นกัน ทั้งนี้เอกสารใดๆ ก็ตามที่ต้นฉบับเกิดสูญหาย และขอให้ทางอำเภอหรือเขตออกฉบับใหม่ โดยการคัดสำเนาและรับรองสำเนาถูกต้องให้นั้น เป็นเอกสารอีกประเภทหนึ่งที่ไม่อนุญาตให้เคลือบ เพราะเจ้าหน้าที่จะยึดเอกสารฉบับนั้นๆ เป็นเอกสารต้นฉบับและรับรองตราประทับของกรมการกงสุลบนฉบับดังกล่าวคู่กับฉบับแปล
ข้อควรรู้ที่สองที่ไม่ควรพลาดในการขอรับรองเอกสาร คือ ควรถ่ายสำเนาเอกสารไว้อย่างละชุด และแนบชุดคู่กับเอกสารฉบับแปล เพราะเจ้าหน้าที่จะขอตรวจต้นฉบับของจริงกับฉบับสำเนา ทั้งนี้ฉบับจริงไม่ใช่เอกสารที่ถ่ายสำเนาสีและนำมายื่นขอรับรอง เพราะหลายท่านเข้าใจว่า เอกสารฉบับสีก็ใช้ได้ดูเหมือนต้นฉบับแล้ว อีกอย่างคือ เกรงเอกสารต้นฉบับจะสูญหายจึงไม่อยากฝากไว้ที่ใครหรือให้ใครเก็บเอกสารของตนไว้ แต่ขอบอกไว้ว่า เจ้าหน้าที่มีวิธีในการตรวจเอกสารและทราบผลทันทีว่า เอกสารดังกล่าว คือ ต้นฉบับของจริงหรือถ่ายสี หากพบว่าเป็นเอกสารถ่ายสี จะส่งคืนเจ้าของเอกสารทันที เพื่อรอต้นฉบับมายื่นคู่กับฉบับแปลใหม่
และข้อที่สาม ซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าสองข้อแรก คือ สำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่ต้องการยื่นรับรองเอกสาร ต้องไม่หมดอายุ แนบคู่กับแบบคำร้อง หรือเอกสารนิติกรณ์ของกรมการกงสุล พร้อมกับเอกสารต่างๆ
สิ่งสำคัญก็ครบหมด เอกสารเรียบร้อย ยื่นได้ ณ วัน เวลา ราชการปกติ และรอฟังผลการตรวจ พิจารณาเอกสารจากเจ้าหน้าที่ได้เลย